ตัวแทนจำหน่ายแอโร่ลายเนอร์ โช๊คอัพKAYABA ทุกรุ่น ส่ง-ปลีก และชิ้นส่วน กระบะ-เก๋ง เก่า,ใหม่ แผงประตู ฝาหน้า หม้อน้ำ บังโคลน กันชน หน้ากระจัง พลาสติกบังฝุ่นล้อ ประตู กระจก ไฟหน้า ไฟท้าย กรุล้อ ราคาถูก

  สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com

หม้อน้ำรถยนต์รั่ว!!! ความร้อนขึ้นสูง!!! รถยนต์ร้อนจัด เครื่องดับ!!! ควรทำอย่างไร???

 หม้อน้ำรถยนต์รั่ว!!! ความร้อนขึ้นสูง!!! รถยนต์ร้อนจัด เครื่องดับ!!! ควรทำอย่างไร???

หม้อน้ำรถยนต์รั่ว!!! ความร้อนขึ้นสูง!!! รถยนต์ร้อนจัด เครื่องดับ!!! ควรทำอย่างไร???

คนใช้รถยนต์อย่างเราๆควรเรียนรู้วิธีป้องกัน

และแก้ไขสถานการณ์กรณีหม้อน้ำรั่วในเบื้องต้น

โดยตรวจสอบอุปกรณ์ประจำรถให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน

ทั้งสายพาน พัดลม ท่อยาง ครีบรังผึ้งระบายความร้อน

ปั๊มน้ำและหม้อน้ำ หากพบรอยรั่วซึมตามจุดต่างๆ

ให้รีบจัดการแก้ไขซ่อมแซมโดยทันที

พร้อมตรวจสอบระดับน้ำในหม้อน้ำอย่างสม่ำเสมอ

 ......

รถยนต์ที่มีอายุการใช้งานเกิน 5 ปี ยิ่งต้องเน้นเป็นพิเศษ

โดยให้หมั่นสังเกตเข็มวัดอุณหภูมิบนหน้าปัดรถ

หากเข็มเกินครึ่งไปทางตัว H แสดงว่าเครื่องยนต์ร้อนจัด

ให้รีบนำรถจอดริมข้างทาง รอจนเครื่องยนต์เย็นลง

จึงค่อยเติมน้ำลงหม้อน้ำ จากนั้นให้รีบนำรถไปเข้าศูนย์บริการ

หรืออู่รถในบริเวณใกล้เคียง เพื่อดำเนินการตรวจสอบและแก้ไขต่อไป

...............

.....

หากน้ำในหม้อน้ำรั่ว น้ำในหม้อน้ำแห้งทำให้เครื่องยนต์ร้อนจัด

เครื่องยนต์จะเกิดอาการขัดข้อง จนสุดท้ายเครื่องจะดับ

หากไปดับกลางถนน ก็เป็นเรื่องใหญ่ทีเดียวครับ

ดังนั้นหากเราขับรถอยู่ ต้องคอยสังเกตเข็มวัดความร้อน

หากเข็มเกินครึ่ง ถือว่าผิดปกติ ให้สงสัยไว้ก่อนเลยว่า

มีปัญหาที่หม้อน้ำ ให้รีบจอดรถ อย่าขับต่อเด็ดขาด

โดยวิธีแก้ไขกรณีหม้อน้ำแห้งในเบื้องต้น

ให้รีบเปิดฝากระโปรงรถ เพื่อระบายความร้อน ออกจากห้องเครื่อง

จากนั้นให้รอจนเครื่องยนต์เย็นลง จึงค่อยเปิดฝาหม้อน้ำ

โดยใช้ผ้าหนาๆ หรือสวมถุงมือ ห้ามยื่นหน้าเข้าใกล้หม้อน้ำ

เพราะแรงดันไอน้ำอาจพุ่งใส่หน้าจนได้รับบาดเจ็บได้

ให้เติมน้ำทีละนิดอย่างช้าๆ โดยทิ้งช่วงประมาณ 5 นาที

พร้อมสังเกตระดับน้ำในหม้อน้ำ หากน้ำที่เติมรั่วออกมาหมด

แสดงว่า หม้อน้ำแตก ให้แจ้งอู่ซ่อมรถมาดำเนินการลากรถไปแก้ไขต่อไป

แต่หากน้ำรั่วซึมเพียงเล็กน้อย และยังสามารถขับรถต่อไปได้

ให้หมั่นสังเกตเข็มวัดอุณหภูมิบนหน้าปัดรถ

และเมื่อความร้อนขึ้นสูงให้หยุดรถเป็นระยะๆ รอจนเครื่องยนต์เย็นลง

โดยเข็มวัดอุณหภูมิเลื่อนมาอยู่ใกล้ตัว C

จึงค่อยขับรถไปเข้าศูนย์บริการหรืออู่รถ เพื่อจัดการแก้ไขต่อไป

........

วันพุธเพิ่งมีปัญหานี้ ต้องรีบเข็นรถเข้าข้างทาง

และรอให้เครื่องเย็น แล้วหาน้ำมาเติมในหม้อน้ำ

แล้วรีบขับเข้าหาอู่ซ่อมโดยเร็วที่สุดนะครับ

แต่มีข้อที่ต้องรู้ไว้ก็คือ ต้องรู้สาเหตุที่หม้อน้ำรั่วด้วยนะครับ

หากรั่วที่ตัวหม้อน้ำเอง ไปหาร้านที่ซ่อมหม้อน้ำก็จบ

แต่หากรั่วที่ท่อ ที่วาล์ว ที่ปะเก็น ต้องหาร้านซ่อมเครื่อง เป็นต้น

.......

ดังนั้น หากจะให้ดีที่สุดควรป้องกันไว้ก่อน และคอยหมั่นสังเกต

ก่อนขับขี่รถยนต์ ควรตรวจสอบหม้อน้ำว่าอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานหรือไม่

หากพบรอยรั่วตามจุดต่างๆ เช่น ท่อยางหม้อน้ำ

ครีบรังผึ้งระบายความร้อน ปั้มน้ำ ให้รีบจัดการแก้ไขในทันที

พร้อมจัดเตรียมน้ำเปล่าไว้ประจำรถ หากหม้อน้ำแห้งจะได้มีน้ำเติมใส่หม้อน้ำ

และที่สำคัญควรหมั่นตรวจสอบระดับน้ำในหม้อน้ำอยู่เสมอ

รถใหม่ ควรตรวจสอบอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง

ส่วนรถที่มีอายุการใช้งานเกิน 5 ปีขึ้นไป

ควรตรวจสอบ 2 - 3 ครั้งต่อสัปดาห์

โดยให้เติมน้ำสะอาดและถ่ายน้ำในหม้อน้ำทิ้งทุก 4 - 6 เดือน

เพื่อป้องกันสิ่งสกปกรกตกค้างจนหม้อน้ำเกิดการอุดตัน

และไม่สามารถระบายความร้อนจากเครื่องยนต์

ไม่เติมน้ำเกินขีดที่กำหนด เพราะเมื่อน้ำเดือด

หม้อน้ำจะเกิดการขยายตัว ทำให้หม้อน้ำแตกได้

...... 

นี่แหละครับ เรื่องของหม้อน้ำรถยนต์ ที่เราต้องรู้ไว้บ้าง

เวลาที่เกิดปัญหาจะได้ไม่ตกใจ และแก้ไขถูกวิธี

และไม่ฝืนขับรถจนเครื่องพัง หรือหากเครื่องยนต์ดับ

ก็จะได้ไม่ฝืนสตาร์ทรถ จนเกิดความเสียหายยิ่งขึ้นได้

ซึ่งอาจทำให้เราต้องเสียค่าซ่อมรถกระเป๋าฉีกได้เลยนะครับ

Tags : หม้อน้ำ

view